หากคุณเล่นบาคาร่าออนไลน์
สิ่งที่คุณเห็นบ่อยที่สุดไม่ใช่แค่ “ฝั่ง Banker หรือ Player ชนะ”
แต่คือชุดข้อมูลที่เรียงอยู่ในช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นั่นคือ
ตาราง Bead Plate (ตารางลูกปัด)
หลายคนมองข้ามความสำคัญของ Bead Plate
แต่รู้ไหมว่า…
ถ้าคุณเข้าใจมันจริง ๆ คุณสามารถวิเคราะห์เค้าไพ่เบื้องต้นได้รวดเร็ว
โดยไม่ต้องรอถึงตาราง Big Road หรือ Big Eye Boy
บทความนี้จะช่วยคุณ
เข้าใจหน้าตาและการทำงานของ Bead Plate
เทคนิคอ่านเค้าไพ่จากตารางนี้
พร้อมวิธีจัดโพยและเดินเงินให้เหมาะกับข้อมูลในมือ
Bead Plate (ตารางลูกปัด)
คือ ตารางแสดงผลการออกไพ่ในรูปแบบกริดแนวตั้ง โดยเรียงจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง
แต่ละช่องจะมีสีแสดงฝั่งที่ชนะ:
สัญลักษณ์ | ความหมาย |
---|---|
🔴 วงกลมแดง | Banker ชนะ |
🔵 วงกลมน้ำเงิน | Player ชนะ |
🟢 วงกลมเขียว | Tie (เสมอ) |
ตารางนี้จะเริ่มจากมุมบนซ้าย → ลงล่างครบ 6 แถว → ขยับคอลัมน์ไปทางขวาเรื่อย ๆ
เห็นเค้าไพ่ได้เร็วกว่า Big Road
เหมาะกับโต๊ะที่เพิ่งเริ่มเล่น
ใช้งานง่าย สังเกตผลได้ภายใน 5–10 ตาแรก
จับแนวโน้มได้แม้ไม่มีตารางอื่นเปิด
แนวตั้ง = ชนะซ้ำฝั่งเดียว
แนวนอน = สลับฝั่ง
ตัวอย่างเค้าไพ่:
| เค้าไพ่มังกร | 🔴 🔴 🔴 🔴 🔴
| เค้าไพ่ปิงปอง | 🔴 🔵 🔴 🔵 🔴
| เค้า 2 ตัวตัด | 🔴 🔴 🔵 🔵 🔴 🔴 🔵 🔵
หาก Tie (🟢) เกิดบ่อยผิดปกติ → แทงสวน หรือรอจังหวะเปลี่ยนเค้า
เพราะ Tie บ่อยมักเกิดในเค้าไพ่หลอก
เช่น P–P–B–B–P–P → เข้าเค้า 2 ตัวตัด
→ เริ่มแทงทันทีในไม้ที่ 7
หากเห็นการออกฝั่งเดิม 3 ครั้ง และรอบต่อไปออก Tie
→ แทงฝั่งตรงข้ามทันทีในไม้ต่อไป
→ เป็นเทคนิคดึงคนแทงผิดฝั่งที่หลายเว็บใช้
ใช้เดินเงินแบบ พาโรลี (Paroli): เพิ่มเบทเมื่อชนะ
→ เหมาะกับโต๊ะที่ตามเค้าง่าย
ใช้เดินเงินแบบ แฟลตเบท (ลงคงที่ทุกรอบ)
→ ป้องกันทุนหมดก่อนเกมนิ่ง
ใช้สูตร 1–1.5–2.5 → เพื่อให้ทอนทุนได้ในรอบ 2–3 ไม้
Bead Plate ใช้ได้ดีแค่ 10–20 ไม้แรก
→ หลังจากนั้นควรดู Big Road เสริม
บางโต๊ะเปลี่ยนรูปแบบเค้าไว → อย่ายึดติดมากเกินไป
ระวัง “เค้าไพ่ล่อ” ที่จัดมาให้ดูเหมือนสูตรเข้า → แทงสวนอาจดีกว่า
✅ เข้าใจง่าย ดูได้เร็ว
✅ ใช้จับเค้าไพ่เบื้องต้นก่อนแทง
✅ เป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับผู้เริ่มเล่นบาคาร่าทุกคน
หากคุณยังไม่มั่นใจเรื่องสูตรหรือกราฟไพ่
เริ่มจากการอ่าน Bead Plate ให้เป็น
เพราะทุกมือโปร… ก็เคยเริ่มจากช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ พวกนี้เหมือนกัน